รมว.พม. เชิดชูเกียรติ อพม. ดีเด่น ปี 62

Business

バンコクの政府機関である社会開発・人間安全保障省はタイ全国の生活支援が必要な人々へのボランティア活動を称賛して各方面で多大な貢献をされたボランティアの皆様を称え感謝状を贈呈しました。


รมว.พม. เชิดชูเกียรติ อพม. ดีเด่น ปี 62 พร้อมดึงเด็ก เยาวชน คลื่นลูกใหม่ ร่วมเป็นจิตอาสา

วันนี้ (13 ก.ย.62) เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร นายจุติ ไกรฤกษ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.)
เป็นประธานเปิดโครงการรวมพลังและเชิดชูเกียรติอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) โดยมี อพม. ดีเด่นและอพม. ดีเด่นพิเศษ จำนวน 84 คน ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ ประจำปี 2562


นายจุติ กล่าวว่า อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) เป็นพลังสำคัญของกระทรวง พม. ในการให้ความช่วยเหลือดูแลประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายในทุกช่วงวัยที่ประสบปัญหาทางสังคมในพื้นที่ทั่วประเทศ ปัจจุบัน มี อพม. ทั่วประเทศเพียง 98,125 คน ในการช่วยเหลือดูแลประชาชนทั่วประเทศ ประมาณ 70 ล้านคน ซึ่งภาระงานด้านสังคม มีเป็นจำนวนมากและมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การปฏิบัติงานของ อพม. ของกระทรวง พม. จำเป็นต้องปรับตัว
ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทั้งปัจจุบันและอนาคตที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ด้วยการทำงานเชิงรุกและเชิงรับ การเสริมพลัง อพม. ให้มีศักยภาพในระดับสากล รวมถึงการส่งเสริมให้สภาเด็กและเยาวชนมีจิตอาสาเข้ามาเป็น อพม. ซึ่งเป็นคลื่นลูกใหม่และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต

การปฏิบัติงานของ อพม. เป็นการทำงานจิตอาสาเพื่อช่วยเหลือดูแลประชาชนอย่างแท้จริง โดยไม่หวังผลตอบแทน กระทรวง พม. จึงได้ให้ความสำคัญ ด้วยการยกย่อง เชิดชูเกียรติ อพม. ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคม จึงได้ดำเนินโครงการรวมพลังและเชิดชูเกียรติอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มาตั้งแต่ปี 2556 – 2561 จนกระทั่ง มี อพม. ที่ได้รับการยกย่อง เชิดชูเกียรติแล้วเป็นจำนวนทั้งสิ้น 491 คน สำหรับปี 2562 คณะกรรมการส่งเสริม งานอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้พิจารณาคัดเลือก อพม.ดีเด่นและดีเด่นพิเศษ รวมทั้งสิ้นจำนวน 84 คน ประกอบด้วย1/อะม.ดีเด่นพิเศษ จำนวน11 คน 2/อพมฺดีเด่นพิเศษชมเชยจำนวน. 3 คน
3/ อพม.ดีเด่น จำนวน 70 คน


“กระทรวง พม. ขอแสดงความยินดีและยกย่อง เชิดชูเกียรติ อพม. ทุกท่าน นับเป็นผู้เสียสละกำลังกาย กำลังใจ
กำลังความคิด และเวลา ด้วยการอุทิศตนทำงานเพื่ออำนวยประโยชน์สุขต่อสังคมและประเทศชาติ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
และพร้อมเป็นเครือข่ายสนับสนุนงานที่สำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านการจัดสวัสดิการและพัฒนาสังคม เป็นการลด
ความเหลื่อมล้ำ มุ่งสู่สังคมที่เป็นธรรม เพื่อเป้าหมายคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ตลอดจนเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ในการพัฒนาประเทศที่เข้มแข็งอย่างยั่งยืนต่อไป” นายจุติ กล่าวในตอนท้าย

###############################