SOMETHING NOUVEAU. KLIMT, MUCHA, BEARDSLEY นิทรรศการมัลติมีเดียสุดตระการตา

Art

ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก เปิดประสบการณ์เสพงานศิลป์ ณ พิพิธภัณฑ์ดิจิทัลแห่งแรกของไทย.กับ SOMETHING NOUVEAU. KLIMT, MUCHA, BEARDSLEY
นิทรรศการมัลติมีเดียสุดตระการตา

ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก (River City Bangkok) ศูนย์การค้าริมแม่น้ำเจ้าพระยา ศูนย์กลางศิลปะและวัตถุโบราณ ที่เปิดประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทุกเพศทุกวัย ล่าสุดในปี 2020 นี้ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก นำโดย ลินดา เชง กรรมการผู้จัดการ ภูมิใจนำเสนอนิทรรศการมัลติมีเดียครั้งใหม่ล่าสุดภายใต้ชื่อ “SOMETHING NOUVEAU. KLIMT, MUCHA, BEARDSLEY”

นำเสนอโดยพิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัล (Museum of Digital Art – MODA)ซึ่งผู้อยู่เบื้องหลังโปรเจ็คต์ใหญ่ตลอดทั้งปีนี้คือ มร.โอเลก มารินิน (Oleg Marinin) แห่ง Vision Multimedia Projects (VMP) บริษัทดิจิทัลโปรดักชั่นจากยุโรป ภายในงานเปิดนิทรรศการให้กับสื่อมวลชนและเหล่าอาร์ตเลิฟเวอร์สที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยเซเลบริตี้และผู้ชื่นชอบศิลปะเข้าร่วมงานมากมาย
นิทรรศการ “SOMETHING NOUVEAU. KLIMT, MUCHA, BEARDSLEY” จัดขึ้นที่ MODA Gallery ชั้น 2 ของริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม-16 เมษายน 2020 นี้ เป็นนิทรรศการที่นำเสนอผลงานของกุสตาฟ คลิมท์ (Gustav Klimt) อัลโฟนส์ มูคา (Alphonse Mucha) และออเบรย์ เบียร์ดสลีย์ (Aubrey Beardsley) ศิลปินแถวหน้าของยุคอาร์ต นูโว (Art Nouveau) ซึ่งเป็นยุคที่ได้รับการยอมรับว่างานศิลปะ งานกราฟิค และสถาปัตยกรรมมีเสน่ห์ที่สุดยุคหนึ่ง
มานำเสนอในรูปแบบมัลติมีเดีย กล่าวได้ว่า มรดกแห่งโลกศิลปะผ่านการศึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ ถูกปลุกให้มีชีวิตอีกครั้งผ่านภาพเคลื่อนไหว องค์ประกอบสำคัญถูกขยายให้ใหญ่ขึ้น มีการยิงแสงเลเซอร์และฉายโปรเจ็กเตอร์บนผนังและทั่วทั้งพื้นห้องพร้อมกับเสียงเพลงเร้าอารมณ์ของนักดนตรีผู้มีชื่อเสียง เพื่อมอบประสบการณ์ให้ผู้ชมได้ดำดิ่งไปกับงานศิลปะอย่างไม่รู้ตัว ทั้งยังมีอุปกรณ์ headset ทำให้ผู้ชมเข้าไปมีส่วนร่วมในเกมหรือการเดินทางไปสู่โลกเสมือนจริงเกินจะจินตนาการได้


นิทรรศการ Something Nouveau แบ่งออกเป็น 3 โซน เพื่อมอบประสบการณ์อันหลากหลายให้กับผู้ชมทุกเพศวัย

MODA Galley เป็นการฉายโปรเจ็คเตอร์สุดล้ำ โดยในครั้งนี้มีการฉายภาพศิลปะอาร์ตนูโวบนพื้นห้องนิทรรศการขนาดใหญ่ที่แตกต่างจากครั้งก่อน เพื่อเอาใจเหล่าอาร์ตเลิฟเวอร์สและผู้ชอบการถ่ายภาพ

MODA SPACE ในส่วนนี้นำเสนองานสามมิติที่ผู้ชมต้องสวมแว่นพิเศษที่ MODA ได้เตรียมไว้ให้เพื่อสัมผัสกับระสบการณ์แบบ immersive เมื่อซื้อบัตรชมนิทรรศการ Something Nouveau จะได้ชมทั้งสองส่วนนี้ในราคาเดียว

นอกจากนี้ยังมี MODA VR STUDIO ที่จะนำเสนอโลกเสมือนผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลซึ่งผู้ชมต้องใช้อุปกรณ์ในการชมและฟังเพื่อดื่มด่ำไปกับโลกแห่งสามมิติแบบอินเตอร์แอ็คทีฟ และสามารถเนรมิตโลกเสมือนขึ้นมาได้ด้วยตนเองด้วยอุปกรณ์ VR หรือ Visual Reality ในส่วนนี้จะนำเสนอเรื่องราวแห่งศิลปะที่นอกเหนือไปจากอาร์ต นูโว


ลินดา เชง กรรมการผู้จัดการ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก กล่าวว่า ปี 2019 ที่ผ่านมาเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก เราได้จัดแสดงผลงานของศิลปินชั้นครูระดับตำนานและศิลปินไทยร่วมสมัยซึ่งเป็นศิลปินรุ่นใหม่ รวมถึงนิทรรศการ “From Monet to Kandinsky” และ “Italian Renaissance” ซึ่งได้รับผลตอบรับจากผู้ชมทุกเพศทุกวัยกว่า 80,000 คน
ปีนี้เราเปิดพิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลของกรุงเทพฯ หรือ MODA ทำให้ทุกคนได้ใกล้ชิดกับงานศิลปะที่มีชื่อเสียงของศตวรรษโดยอาศัยเทคโนโลยีหลายมิติและการมอบประสบการณ์ร่วมให้ผู้ชม โดยนิทรรศการ Something Nouveau เป็นปฐมบทของ MODA เราได้เลือกสรรยุคทองของอาร์ตนูโว นำเสนอเรื่องราวของศิลปินกุสตาฟ คลิมท์ อัลโฟนส์ มูคา และออเบรย์ เบียร์ดสลีย์ ศิลปินแถวหน้าของยุคนั้น เพราะปรารถนาที่จะเริ่มต้นปีใหม่ด้วยสิ่งที่เรียกว่า ‘New art’ หรือศิลปะแบบใหม่ของศตวรรษ นอกจากส่วนที่เรียกว่า MODA Multimedia Gallery และ MODA Immersive Room แล้ว ยังมีส่วนที่เรียกว่า MODA VR Studio ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมและเนรมิตงานศิลปะดิจิทัล ให้ผู้ชมได้ดื่มด่ำงานศิลป์ผ่านโลกสามมิติ ที่เราอยากให้ทุกท่านมาสร้างประสบการณ์ด้วยตัวเอง” ลินดา อธิบาย และกล่าวต่อไปว่า ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ภูมิใจนำเสนออีกหนึ่งนิทรรศการ ‘ครั้งแรก’ ของกรุงเทพ กับประโยคที่ว่า “15 minutes of fame” หรือ “ทุกคนจะมีโอกาสมีชื่อเสียงในระดับโลก คนละ 15 นาที” สำหรับทุกท่านได้มาสัมผัสและเพลิดเพลินไปกับนิทรรศการนี้


มร.โอเลก มารินิน Managing Partner บริษัท Vision Multimedia Projects กล่าวเพิ่มเติมว่า เรายินดีที่จะนำเสนอพิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลแห่งแรกในประเทศไทย เป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ที่รวบรวมสิ่งที่ดีที่สุดของพื้นที่พิพิธภัณฑ์ร่วมสมัย ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นทั่วโลก เช่น BORDERLESS ณ กรุงโตเกียว และ ATELIER des LUMIERES ณ กรุงปารีส ทั้งสองแห่งก่อตั้งขึ้นไม่นานแต่ก็เป็นจุดหมายปลายทางที่คนทั่วโลกต่างปรารถนา อย่างไรก็ตาม BORDERLESS เน้นไปที่งาน อินสตอลเลชั่นที่ให้ผู้ชมมีประสบการณ์ร่วม ขณะที่ ATELIER des LUMIERES นำเสนอโชว์มัลติมีเดีย ส่วน MODA โปรเจ็คต์ใหม่ของเราที่ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก นั้นมีทุกอย่างที่ว่านี้รวมไว้ด้วยกัน และมีผลงานต่างๆ เพิ่มขึ้นไปอีก จุดประสงค์ของเราคือนำเสนอศิลปะในรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Artainment ซึ่ง MODA Bangkok เป็นพื้นที่อันหลากหลายซึ่งเปลี่ยนงานศิลปะแบบดิจิทัลโดยการผนวกศิลปะคลาสสิคและร่วมสมัยไว้ด้วยกัน


มร.โอเลก อธิบายเพิ่มเติมถึงการจัดแสดงว่า เนื้อหาจะเน้นไปที่ผลงานที่กำลังนำเสนออยู่จากยุคสมัยและจากสถานที่ที่ต่างกัน ทีมออกแบบของเราได้เนรมิตภาพกราฟิคที่เคลื่อนไหวได้ซึ่งจะมีชีวิตชีวาต่อหน้าผู้ชมและแน่นอนว่าพวกเขาจะชื่นชอบผลงานมาสเตอร์พีซอันคลาสสิค บนผนังและพื้นห้องถูกเนรมิตให้กลายเป็นผืนผ้าใบที่มีชีวิต
เปิดประสบการณ์ไปกับ MODA พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลที่กรุงเทพที่ MODA Gallery ชั้น 2 ของริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ตั้งแต่วันนี้จนถึง 16 เมษายน