英国主導の国際保健パートナーシップ会議開催:NCDs

Business

英国主導の国際保健パートナーシップ会議開催:NCDs(非感染症疾患)に対する取り組み手法

国際保健専門家と公衆衛生上級担当者がバンコクで開催されたプリンスマヒドンアワードカンファレンス2020のサイドミーティングに集まり、各国がどのように保健システムを強化してより良いユニバーサルヘルスカバレッジ(UHC)を実現できるかについての情報を共有しました。


英国が資金を提供するグローバルベターヘルスプログラムの一環として、セッションはパートナー国のトップの医療専門家を集め、彼らの経験、専門知識、知識を共有し、増大する非感染性疾患(NCD)による若死を減らすべく健康システムの支援について審議しました。


ベターヘルスプログラムは、現代の最大の健康上の課題について英国、タイ、マレーシア、ミャンマー、フィリピン、ベトナム、ブラジル、メキシコ、南アフリカと協力し合い、しいては包括的経済成長を支援し、パートナー国の貧困を削減することを目的とした、英国繁栄基金13億ポンドの開発援助の一部です。

“Through this Better Health Programme, we are looking to partner with other countries to leverage better health outcome around the world,” said British Ambassador Brian Davidson.
英国大使ブライアン・デビッドソン氏は「他の国々と提携することで世界中でより良い健康の成果をあげ、それらを活用していきたいと考えています」と述べました。

สหราชอาณาจักรเดินหน้าโครงการ Better Health Programme ผนึกกำลังพาร์ทเนอร์ 8 ประเทศร่วมแชร์องค์ความรู้สู้โรค NCDs

ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs (Non-Communicable Diseases) อาทิ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคอ้วนลงพุง เป็นสาเหตุที่ทำให้คนประมาณ 41 ล้านคนเสียชีวิตในแต่ละปี หรือคิดเป็น 71% ของสาเหตุการเสียชีวิตทั้งหมดที่เกิดขึ้นทั่วโลก และมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยผู้คนในปัจจุบันมีไลฟ์สไตล์และการดำเนินชีวิตที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งการสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รับประทานอาหารหวานมันเค็มจัด และขาดการออกกำลังกาย

สหราชอาณาจักรเล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงจัดตั้งโครงการ Better Health Programme เพื่อร่วมลดจำนวนผู้ป่วยโรค NCDs ผ่านการสร้างเครือข่ายการทำงานกับประเทศพาร์ทเนอร์ ซึ่งจะแบ่งปันความชำนาญและองค์ความรู้ในการรับมือกับความท้าทายที่เกิดจากโรค NCDs และเรื่องระบบการดูแลสุขภาพ โดยเป็นต้นทางสำคัญที่จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร อันเชื่อมโยงถึงผลิตภาพ (Productivity) ในการทำงาน และการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

นายไบรอัน เดวิดสัน

นายไบรอัน เดวิดสัน เอกอัครราชทูตแห่งสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างสหราชอาณาจักรกับ 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ เวียดนาม บราซิล เม็กซิโก และแอฟริกาใต้ เพื่อรับมือกับปัญหาด้านสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในยุคนี้ โดยดำเนินงานผ่านกองทุน UK Prosperity Fund ซึ่งให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาเป็นทุน 1,300 ล้านปอนด์ในการสนับสนุนให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง และช่วยลดความยากจนให้กับประเทศที่เข้าร่วมโครงการ

“ภายใต้โครงการBetter Health Programme เราไม่เพียงให้เงินทุนสนับสนุนเท่านั้น แต่ได้สร้างเครือข่ายความร่วมมือแบบพหุภาคี โดยมีนักวิชาการ องค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) และภาคธุรกิจมาเข้าร่วมด้วย เพราะสหราชอาณาจักรต้องการให้โครงการนี้เป็นตัวเชื่อมในการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของสหราชอาณาจักรกับสถาบันในประเทศต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้เราร่วมมือกันรับมือกับความท้าทายด้านสุขภาพระดับโลกที่เกิดขึ้นได้”

ดร.สุรีย์วัลย์ ไทยประยูร

ทั้งนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ สหราชอาณาจักรโดยโครงการ Better Health Programme ได้เข้าร่วมงานประชุมวิชาการรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลปี 2563 (Prince Mahidol Award Conference 2020) ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขระดับสูงจากประเทศพาร์ทเนอร์มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการพัฒนาสุขภาพและสุขภาวะ โดย ดร.สุรีย์วัลย์ ไทยประยูร ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบาย กระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลว่า สาเหตุหลักการเสียชีวิตของคนไทยเกิดจากโรค NCDs ไม่ว่าจะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และโรคปอดเรื้อรัง รวมถึงอุบัติเหตุจากการจราจร

ดร.อรุณา จันดรัน

ขณะที่ ดร.อรุณา จันดรัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข กระทรวงสุขภาพ ประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า เพราะโรค NCDs ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการใดๆ ล่วงหน้า ทำให้คนจำนวนมากไม่รู้ถึงสัญญาณของโรค โดย 70% ของชาวมาเลเซียที่เสียชีวิตจากโรคนี้เป็นกลุ่มประชากรซึ่งอยู่ในวัยที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อจำนวนแรงงานด้านเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเพิ่มภาระให้กับระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าด้วยเช่นกัน

ดร.เอดูโร กอนซาเลส-เปียร์

ด้านดร.เอดูโร กอนซาเลส-เปียร์ จากโครงการ Better Health Programme ประเทศเม็กซิโก แสดงความคิดเห็นว่า ผู้ที่ทำงานด้านสุขภาพมักประสบกับปัญหาเหมือนกันทั้งแง่นโยบายและการบริหารทรัพยากร ซึ่งการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมวิชาชีพเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ประเทศต่างๆ สามารถหาแนวทางที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาดังกล่าวได้

“ความร่วมมือสามารถสร้างได้หลายระดับ ตั้งแต่ระดับสถาบันจนถึงระดับส่วนตัว โดยความร่วมมือระหว่างสถาบันขนาดเล็กจะยิ่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ค่อยมีความซับซ้อนและมีความยืดหยุ่นมากกว่า ซึ่งการแชร์ประสบการณ์ระหว่างกันจะทำให้เกิดความเห็นใจซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งมีความเข้าใจถึงปัญหาและความท้าทายที่เจอเหมือนกันได้มากขึ้น”

อันสอดคล้องกับเป้าหมายของโครงการ Better Health Programme ซึ่งต้องการเป็นหนึ่งช่องทางที่สนับสนุนการแบ่งปันความรู้จากเพื่อนสู่เพื่อน และสร้างความร่วมมือที่ยั่งยืนในระยะยาวต่อไป