TPN พร้อมเดินหน้าระบบขนส่งน้ำมันทางท่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Business

本日(2020年2月5日)コンケン県バン・パイ地区のタイ・パイプライン・ネットワーク社建設予定地にて、エネルギー省Sonthirat Sonthichirawong大臣、Somsak Jungtrakulコンケン県知事、タイ・パイプライン・ネットワーク社(TPN)Kampon Tatiyakavee会長、他関連機関出席のもと定礎式を行いました。エネルギー省Sonthirat Sonthichirawong大臣は、石油パイプライン輸送システムをタイ東北部まで延長する70の準地区を通る総長342KMに及ぶプロジェクトであると発表しました。このプロジェクトはサラブリのサオ・ハイ地区からコンケン県バン・パイ地区までの5区間を結び、バン・パイ地区に1億4千万リッターの石油ターミナルを建設するものです。


東北部における石油ターミナルとパイプライン・システムは、石油製品を各地域に備蓄しエネルギーの安定供給を創出する政府の政策に沿ったもので、しいてはこの信頼できるエネルギーインフラはASEANにおける石油消費量の増加にも対応し、タイのエネルギーセンターとしての競争力を押し上げることで国の経済的利益にもつながるものです。

TPN พร้อมเดินหน้าระบบขนส่งน้ำมันทางท่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือ​ รัฐมนตรีพลังงานร่วมวางศิลาฤกษ์คลังน้ำมันขอนแก่น

5 กุมภาพันธ์ 2563 – ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค (ทีพีเอ็น) ถือฤกษ์ดีวันนี้วางศิลาฤกษ์คลังน้ำมันอำเภอ บ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น พร้อมเดินหน้าการก่อสร้างตามกำหนดการ หลังได้รับความเห็นชอบด้านรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) เรียบร้อยแล้ว

​นายกัมพล ตติยกวี ประธานกรรมการบริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (ทีพีเอ็น – TPN) กล่าวว่า ตามที่บริษัทฯ ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ให้ดำเนินการขยายท่อขนส่งน้ำมันในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อ พ.ศ. 2559 และได้คัดเลือกให้บริษัท ไชน่า ปิโตรเลียม ไปป์ไลน์ บูโร (ประเทศไทย) จำกัด (ซีพีพี – CPP) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างเมื่อต้นปี 2562 ทั้งทีพีเอ็นและซีพีพี ได้ทำงานร่วมกันตลอดระยะเวลาหนึ่งปี เพื่อทำการเตรียมพร้อมในเรื่องของระบบวิศวกรรมและวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการก่อสร้างจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งบัดนี้ เรามีความพร้อมที่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างทั้งระบบท่อขนส่งน้ำมันและคลังน้ำมันตามแผนงานที่ตั้งไว้ จึงได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์คลังน้ำมันบ้านไผ่แห่งนี้ขึ้นเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของภารกิจสำคัญของทีพีเอ็นและซีพีพีนับจากนี้เป็นต้นไป

โดยได้รับเกียรติจากนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีฯ
​ระบบท่อขนส่งน้ำมันในภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมทั้งคลังน้ำมันแห่งนี้จะตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความมั่นคงด้านการจัดหาพลังงาน และยังเอื้อต่อนโยบายการเก็บสำรองน้ำมันสำเร็จรูปในคลังส่วนภูมิภาค ส่งผลให้มีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่เชื่อถือได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ด้านเศรษฐศาสตร์ต่อประเทศ รวมถึงยังเป็นการรองรับการขยายตัวด้านการใช้น้ำมันในภูมิภาคอาเซียน ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางพลังงานของภูมิภาคอีกด้วย

“บริษัทฯ ตระหนักดีถึงภารกิจอันสำคัญยิ่งของเราต่ออนาคตและความมั่นคงของพลังงานในประเทศ และได้กำหนดเป็นนโยบายสำคัญในการดำเนินงานโดยคำนึงถึงหลักมาตรฐานสากลด้านความปลอดภัย ระบบงานวิศวกรรม กระบวนการตรวจสอบ ขั้นตอนการทำงาน ฯลฯ จึงมั่นใจได้ว่าการดำเนินโครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเป็นไปด้วยความรอบคอบและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นแก่ความมั่นคงทางพลังงานของประเทศในอนาคต รวมทั้งประโยชน์แก่ชุมชนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง” นายกัมพล กล่าว

โครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด มีระยะทางทั้งสิ้น 342 กิโลเมตร ผ่าน 70 ตำบล 22 อำเภอ 5 จังหวัด เริ่มจากอำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี มาสิ้นสุดที่อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น และมีการก่อสร้างคลังน้ำมันปลายทางที่อำเภอบ้านไผ่ขนาด 140 ล้านลิตร

ซึ่งเมื่อระบบแล้วเสร็จตามกำหนดการประมาณไตรมาส 4 ปี พ.ศ. 2564 คาดว่าจะสามารถลดปริมาณการขนส่งน้ำมันทางรถบรรทุกลงไปจำนวน 200,000 เที่ยวต่อปี คิดเป็นการประหยัดเชื้อเพลิงในการขนส่งลงไปได้กว่า 21 ล้านลิตรต่อปี ที่สำคัญ คลังน้ำมันแห่งนี้จะเกิดประโยชน์ต่อชุมชนโดยรอบและประชาชนในท้องถิ่นจากการสร้างงานให้แก่พี่น้องที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งนอกเหนือไปจากการสร้างงานจากบริษัทฯ โดยตรงแล้ว ยังจะเพิ่มโอกาสของการสร้างงานสร้างรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องต่อเนื่องอื่น ๆ อีกมาก จึงนับเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นโดยตรง และยังส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งน้ำมันของประเทศ ลดความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในการขนส่ง ลดปัญหาด้านอุบัติเหตุรวมถึงแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งยังเป็นโครงการฯ สำคัญที่มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศด้วย